เดือน: ตุลาคม 2023

การใช้ชีวิตในสังคมชนบทหรือต่างจังหวัด 

 

          ชื่อว่าหากใครเคยไปบ้านต่างจังหวัดจะเห็นได้ว่าที่ต่างจังหวัดนั้นจะมีพื้นที่กว้างขวางและมีต้นไม้ภูเขาเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดต่างจังหวัดนั้นมีความเจริญน้อยมากหากเปรียบเทียบกับกรุงเทพฯแต่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด

นั้นมักจะมีความสุขมากกว่าสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯนั่นก็เพราะว่าการใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างจังหวัดนั้นพวกเขาไม่ต้องเร่งรีบมากจนเกินไปพวกเขาสามารถที่จะตื่นสายตื่นมาก็มีเวลาที่จะทำบุญใส่บาตรแต่เช้า

       การใช้ชีวิตในสังคมชนบท   นอกจากนี้ผู้คนต่างจังหวัดยังไม่ต้องแย่งงานกันทำเพราะแต่ละคนนั้นมีอาชีพเป็นของตนเอง

ซึ่งส่วนใหญ่อาชีพนั้นก็จะมีลักษณะความคล้ายคลึงกันนั่นคืออาชีพการเกษตรหรือเลี้ยงสัตว์ที่สำคัญชุมชนต่างจังหวัดนั้นมีคนปริมาณที่ไม่มากผู้คนนั้นรู้จักกันทั่วทั้งหมู่บ้านและถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในชนบทหรือในต่างจังหวัดนั้นค่อนข้างมีความสุขมากหากเปรียบเทียบกับการใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนเมืองนั่นเอง

          นอกจากนี้ผู้คนในครอบครัวก็ยังมีการพูดคุยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเพราะทุกคนนั้นตื่นเช้ามาก็จะมีการเจอหน้ากันรับประทานอาหารร่วมกันหลังจากนั้นก็จะแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวหรือไปทำหน้าที่ของตนเองเช่นออกไปทำงานและช่วงเวลา 17:00 น

ทุกคนก็จะมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ที่บ้านรับประทานอาหารร่วมกันดูทีวีร่วมกันการใช้ชีวิตแบบนี้เราจะไม่สามารถพบเจอได้ในสังคมเมืองนั่นเอง

       นอกจากความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวแล้วความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านก็ยังดีอีกด้วยเพราะเพื่อนบ้านนั้นมักจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันถ้อยทีถ้อยอาศัยกันบางคนทำอาหารก็มีการนำแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านหรือบางครั้งใครมีความรู้อะไรก็มีการถ่ายทอดให้กับเพื่อนบ้านนอกจากนี้ยังช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเพื่อนบ้าน

เพื่อป้องกันโจรขโมยอีกด้วยสำหรับคนในสังคมต่างจังหวัดหรือสังคมชนบทนั้นมักจะเน้นการช่วยเหลือกันเป็นสิ่งสำคัญและส่วนใหญ่แล้วคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันก็มักจะเป็นเครือญาติกันเป็นพี่น้องกันจึงทำให้ทุกคนนั้นมีความจริงใจต่อกัน

          ที่สำคัญประเพณีที่สืบทอดต่อๆกันมาในต่างจังหวัดก็คือในช่วงวันหยุดวันพระผู้คนจะไปรวมตัวกันอยู่ที่วัดเพื่อทำบุญดังนั้นทุกคนก็จะเจอหน้ากันและพูดคุยกันทำให้คนต่างจังหวัดนั้นรู้จักกันและนอกจากนี้ต่างจังหวัดมักจะมีกิจกรรมประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อๆกันมาซึ่งมักจะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในชุมชนทำให้ในแต่ละปีกิจกรรมหรือประเพณีนั้นค่อนข้างมีบ่อยคนในชุมชนจึงมีความสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกันนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    ดูบอลสด

Posted by adminone in ข่าวทั่วไป

การออกแบบและจัดหน้าสื่อสิ่งพิมพ์

หลักการสร้างเอกสารสิ่งพิมพ์

      การออกแบบและจัดหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ เมื่อเราต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมสําเร็จรูปในงานพิมพ์ควรคํานึงถึงข้อแตกต่างที่ต้องกําหนดในแต่ละโปรแกรมเช่นการระบุค่าต่างๆของโปรแกรม    (Printer)    การกําหนดค่าของกระดาษการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1.การระบุค่าต่างๆของโปรแกรม

              ก่อนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เราควรตรวจสอบเกี่ยวกับค่าต่างๆของโปรแกรมก่อนว่าเหมาะสมและเป็นค่าที่เราต้องการใช้งานหรือไม่ซึ่งได้แก่ค่ากําหนดแถบไม้บรรทัด (Ruler)  รวมถึงการตรวจสอบหน่วยวัดบนแถบไม้บรรทัดว่าเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร (ซม.) หรือถ้าต้องการความละเอียดเพิ่มขึ้นก็สามารถเลือกเป็นมิลลิเมตร (มม.) นอกจากนั้นยังมีระยะกระโดดหรือที่เรียกว่าTAB ซึ่งในการปรับแต่งค่าเหล่านี้ก่อนการพิมพ์ให้เหมาะกับความถนัดและเหมาะกับงานพิมพ์นั้นจะช่วยให้การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เกิดความสะดวกรวดเร็วและตรงกับความต้องการของเรามากขึ้น

2.การกําหนดค่าของกระดาษ

              ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์แต่ละชนิดนั้นมีความแตกต่างกันในหลายด้านการตั้งค่ากระดาษชนิดกระดาษประเภทกระดาษที่ถูกต้องและเหมาะสมย่อมช่วยให้ประหยัดเวลาในการแก้ไขหรือปรับแต่งรายละเอียดเพิ่มเติมได้ดังรายละเอียดดังนี้กระดาษสามารถแบ่งตามผิวได้  2  ประเภทคือ

– กระดาษไม่เคลือบผิว (Uncoated  Paper)เป็นกระดาษที่ไม่มีการเคลือบผิวของกระดาษด้วยสารใดลักษณะกระดาษจะมีผิวขรุขระกระดาษประเภทนี้ไม่เหมาะกับงานพิมพ์ภาพสกรีนเช่นกระดาษหนังสือพิมพ์ (Newsprint) กระดาษปอนด์ที่ผลิตสิ่งพิมพ์มีค่าเป็นต้น 

– กระดาษเคลือบผิว  (Coated  Paper)เป็นกระดาษที่มีการเคลือบผิวด้วยสารเคมีที่ผิวกระดาษเพื่อให้เกิดความมันและเรียบขึ้นไม่ขรุขระเช่นกระดาษอาร์ตด้าน  (Matt  Art)  และกระดาษอาร์ตมัน (Gloss Art) ทั้งนี้มาตรฐานสิ่งพิมพ์ขององค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐาน ISO   (International Organization for Standardization) แบ่งมาตรฐานกระดาษไว้ 3 ชุดชุด A และ B  สําหรับงานพิมพ์ทั่วไปและชุด C สําหรับงานซองจดหมายซึ่งกระดาษจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสัดส่วนความกว้างและความยาวอยู่ที่  1:1.414 โดยประมาณตัวอย่างเช่นถ้ากระดาษมีความกว้างที่  841 มม.  ด้านยาวจะมีค่าเท่ากับ 1189.174 มม.

3.การตั้งค่าเครื่องพิมพ์  (Printer) 

                 สําหรับการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ (Printer) นั้นเราจําเป็นต้องคํานึงถึงเพราะเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการพิมพ์เอกสารลงบนกระดาษเช่นการตั้งระยะกั้นหน้า  (Left   Margin) การตั้งระยะกั้นหลัง(Right Margin)  การตั้งระยะขอบบน (Top Margin)  หรือการตั้งระยะขอบล่าง (Bottom) ในแต่ละประเภทเครื่องพิมพ์มีข้อแตกต่างกัน  ufabet เว็บแม่     ทั้งเครื่องพิมพ์แบบหัวเข็ม (Dot-matrix  Printer) เครื่องพิมพ์เลเซอร์  (Laser  Printer)   หรือแม้กระทั่งเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก  (Ink-Jet  Printer)    หากเราไม่ได้กําหนดงานพิมพ์ที่ได้อาจเสียระยะในการจัดพิมพ์ไว้ในเอกสารเช่นอาจมีการตัดคําไม่ตรงกับที่เราตัดไว้ในเอกสารได้

ขั้นตอนการออกแบบสิ่งพิมพ์

ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์นั้นต้องออกแบบสิ่งพิมพ์ก่อนดังขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เก็บรวบรวมข้อมูลของสื่อสิ่งพิมพ์
  2. สรุปลักษณะต่างๆเช่นประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ลักษณะกระดาษ
  3. ออกแบบแนวคิดสื่อสิ่งพิมพ์ว่าต้องการให้ออกมาในรูปแบบใด
  4. ทดลองทําและแก้ไขในสิ่งที่ต้องการปรับปรุง
  5. พิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์
Posted by adminone in สังคมทั่วไป

ทำอย่างไรความสุขจึงคงอยู่ได้นานๆ

ทำอย่างไรความสุขจึงคงอยู่ได้นานๆ ชีวิตประจำวันของเรามักมีความสุขน้อยกว่าความทุกข์ เราต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาซื้อสิ่งต่างๆ เพื่อสร้างความสุข แต่สุขได้ไม่นานก็เฉยๆอีกแล้ว ทำให้ต้องแสวงหาสิ่งใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ ทำไมความสุขที่ได้มาจึงหายไปเร็วนัก

สมมติว่าคุณต้องการซื้อรถคันใหม่เพราะคิดว่าจะทำให้คุณมีความสุขในระยะแรกๆ คุณคงรู้สึกตื่นเต้นสนุกสนานที่ได้ขับรถคันใหม่ แต่ในระยะเวลาไม่นานความสุขจะค่อยๆ ลดน้อยลง รถคันใหม่ก็กลายเป็นสิ่งแวดล้อมเก่าๆ และคุณก็เริ่มต้นหาสิ่งอื่นเพ่อตอบสนองความสุขในระดับที่น่าพอใจมากขึ้น 

ถ้าเราปล่อยให้ชีวิตอยู่ภายใต้อิทธิพลวงจรเช่นนี้ เราก็จะต้องทำงานหนักตลอดเวลาเพื่อแลกกับความรู้สึกพอใจและเป็นสุขเพียงระยะเวลาสั้นๆและเมื่อไต่ระดับความต้องการไปเรื่อยๆ เราก็จะพบว่าความสำเร็จที่ได้มาก็ไม่ได้คุ้มค่ากับความเหนื่อยยากที่ต้องทุ่มเทให้เลย สิ่งที่เราต้องหาทางแก้ไขคือทำอย่างไรให้ความรู้สึกเป็นสุขมีช่วงเวลายาวนานและยั่งยืนขึ้น จากการวิจัยทางจิตวิทยาพบว่ามี 5 สิ่งคือ 

ทำงานเพื่อมีเงินให้มาก “พอ” เงินนำความสุขมาให้ก็จริง แต่ถึงจุดหนึ่งเท่านั้น เมื่อคุณมีเงินมากพอสำหรับสิ่งจำเป็นและสิ่งฟุ่มเฟือยบางอย่างเงินที่ได้มามากขึ้นก็ไม่สามารถสร้างความสุขให้คุณได้เทียบเท่า แต่อาจจะกลับทำให้ความสุขลดลงเพราะเกิดความเครียดและกังวลในการดูแลรักษาสมบัติเหล่านั้น

ใส่ใจการปรับปรุงสุขภาพกายและใจ สุขภาพคือปัจจัยสำคัญที่สุดต่อความสุข เมื่อคุณรู้สึกสบายและปลอดโปร่งใจ คุณก็จะรู้สึกมีความสุขไปด้วย ตรงกันข้ามถ้าคุณรู้สึกเจ็บป่วยหรือเครียด ความสนุกสนานและความพอใจในชีวิตก็น้อยลง

ใช้เวลากับคนที่คุณรู้สึกมีความสุขที่จะอยู่ด้วย การได้พูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกันกับคนที่คุณรัก ชอบพอและสนุกสนานเมื่ออยู่ด้วย เช่น ครอบครัว เพื่อนฝูง และคนที่มีความชอบคล้ายๆกัน หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง ช่วยทำให้อารมณ์เบิกบานและเป็นสุขได้นานๆ 

ขจัดสิ่งรบกวนที่เรื้อรัง มีหลายอย่างในชีวิตที่อาจทำให้ประสาทเสียได้  gclub เว็บตรง   การหาทางกำจัดหรือลดสิ่งรบกวนที่จำเจจะช่วยให้ชีวิตมีความสุขและมีเวลาสำหรับความรู้สึกดีๆมากขึ้น เช่น ไม่ชอบเดินทางในจราจรที่ติดขัด ไม่ชอบงานที่ทำอยู่ ไม่ชอบสภาพแวดล้อมของที่พักอาศัย ไม่ชอบนิสัยของเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ต้องหลีกเลี่ยง

ค้นหาสิ่งท้าทายใหม่ๆ เป็นเรื่องปกติที่คนเราต้องการชีวิตที่มีเป้าหมายและมีความสุขจากการทำงาน มิฉะนั้นอาจจะรู้สึกชีวิตว่างเปล่า และนำไปสู่ความซึมเศร้า ทางออกก็คือให้หาสิ่งท้าทายใหม่ๆมาทำ ซึ่งอาจจะเป็นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาใหม่ เล่นเครื่องดนตรีใหม่ สร้างบางสิ่งบางอย่างจากศูนย์ เข้าร่วมกิจกรรมกับชมรมที่ตัวเองมีความสนใจ เป็นต้น การมุ่งมั่นต่อความสำเร็จใหม่ๆ จะรู้สึกมีความสุขได้ยาวนาน 

โดยสรุปประสบการณ์ให้ความสุขมากกว่าสิ่งของทางวัตถุ สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆ คือบางสิ่งบางอย่างที่เรามีความกระตือรือร้นที่จะทำ

Posted by adminone in สังคมทั่วไป

ประวัติภารโรง…โรงเรียนวัดร่องแซง( กุลไพศาลวิทยา )

วันนี้ผมขอนำเสนอเกี่ยวกับประวัติโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งในอำเภอหนองแค ให้ผู้อ่านได้รู้ถึงเรื่องราวความยากลำบากในการทำงาน ของลุงภารโรงท่านหนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้ชื่อว่า โรงเรียน วัดร่องแซง

ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 8-10 ไร่ มีอาคารไม้หนึ่งหลังเป็นอาคารหลัก ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2521 ทางโรงเรียนได้งบประมาณในการจัดจ้างรับข้าราชการในตำแหน่งนักการภารโรง 1 ตำแหน่ง

ประวัติภารโรง…โรงเรียนวัดร่องแซง( กุลไพศาลวิทยา )

และในคราวนั้นมีผู้มาสมัครเพื่อสอบคัดเลือกตำแหน่งนักการภารโรง3คนและผู้ที่ผ่านการสอบผ่านการคัดเลือกได้แก่นายสนิท อยู่ถาวร ขณะนั้นครูใหญ่ที่ดูแลโรงเรียนวัดร่องแซงชื่อว่านายประเสริฐ งามพันธ์ุ ก่อนที่จะเริ่มทำงานได้มีการอบรมเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของภารโรงว่ามีอะไรบ้างที่ต้องทำ

 

คือหนึ่งดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรียนทั้งหมด เปิดหน้าต่าง เปิดประตูอาคารเรียนทั้งหมด ถูพื้นอาคารเรียนทั้งหมด เก็บขยะบริเวณรอบโรงเรียนรดน้ำต้นไม้ – ดอกไม้ ทำการซ่อมแซมโต๊ะเก้าอี้ สิ่งของภายในโรงเรียนที่ชำรุดสุดโทรมและคอยเป็นผู้ช่วยคุณครู

เมื่อคุณครูท่านใดมีมีงานอะไรขอให้ช่วยก็ต้อวทำตามความสามารถ แต่งงานภารโรงฟังดูแล้วเหมือนจะง่าย แต่จริงๆแล้วมีอะไรมากมายที่อยู่เหนือความคาดหมายที่นักการ ภารโรงจะต้องรับผิดชอบและต้องช่วยเหลือคุณครู หน้าที่ได้รับมอบหมายก็มีมากมายเหลือเกิน แถมยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ที่นักการภารโรงคนนี้ต้องทำ คือตื่นเช้าประมาณตีสี่เพื่อไปตลาดซื้ออาหารมาทำกับข้าวเพื่อจำหน่ายให้พวกเด็กๆนักเรียนในราคาพิเศษซึ่งเมื่อก่อนยังไม่มีโครงการอาหารกลางวันฟรี

บางครั้งโรงเรียนก็มีโครงการสอนเด็กให้ประกอบอาชีพโดยการทำแปลงผักเพราะเห็ดฟางและนั้นก็กลายเป็นหน้าที่หลักของ ของภารโรงจะต้องตื่นมาเก็บเห็ด ซึ้งยิ่งทำแปลงเห็ดมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องตื่นดึกมากเท่านั้น เพราะต้องให้ทันเวลากับการบานของดอกเห็ดถ้าเก็บสายดอกเห็ดจะบานมากและทำให้ขายไม่ได้ราคา สรุปต้องตื่นตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งเพื่อมาเก็บเห็ดจนถึงเวลาเช้าทุกๆวัน แกทำอย่างนี้ทุกๆวันและเมื่อก่อนรถปูนถ้าไปลงงานที่ไหนแล้วมีปูนเหลือก็จะเอามาเทให้โรงเรียนฟรี ใครล่ะครับที่ทำหน้าที่โกยปูนก็ภารโรงคนนี้แหละครับ

เทจนรอบโรงเรียนเต็มไปด้วยถนนคอนกรีตและสมัยก่อนการลดน้ำต้นไม้ก็ไม่มีน้ำปะปาจะต้องทำการต่อได้สายยางสูบน้ำจากคลองชลประธานบริเวณข้างโรงเรียนเพื่อมารดน้ำต้นไม้ โดยใช้สายยางขนาดใหญ่ ในการรดน้ำและการรดน้ำแต่ละครั้งจะต้องรดให้ชุมโชคให้ดินที่อุ้มน้ำเป็นระยะเวลายาวนานเพราะว่าการรดแต่ครั้งต้องใช้อุปกรณ์แล้วก็ลำบากในการลากสายยางในเวลายามค่ำคืนนักการภารโรง ต้องมานอนที่โรงเรียนเพื่อเฝ้าโรงเรียนเป็นประจำ นักการภารโรงคนนี้ทำงานอยู่กับโรงเรียนร่องแซงได้รางวัลมากมาย

ได้ขั้นเงินเดือนปีละขั้นเงินเดือน บางปีได้ 2 ขั้นเงินเดือน เกือบทุกปี ครูใหญ่คนแล้วคนเล่าผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาตั้งแต่คุณครูประเสริฐงามพันธ์ มาเป็นคุณครูไพฑูรย์ ประมูลสินแล้วมาเป็นคุณครู ประสาน คงสมบูรณ์ ภารโรงคนนี้เกษียณอายุราชการตอนอายุครบ 60 ปีแต่ด้วยการที่ท่านเป็นคนอุตสาหะวิริยะและขยันอดทนทางโรงเรียนได้ทำการต่อสัญญาโดยไม่จ้างนักการภารโรงคนใหม่ อีกเป็นเวลา 5ปีเรียกได้ว่าคุ้ม

ครับเรื่องเล่าประวัติของนักการภารโรงชื่อนายสนิท อย่ถาวร โรงเรียนวัดร่องแซง( กุลไพศาลวิทยา)ขนาดเล็กๆแต่หน้าที่การงานไม่เล็กเลยใช่ไหมครับ ทำงานมากมายขนาดนี้ถามว่าปัจจุบันนักการ ภารโรง ยังมีอีกไหมที่ทำงานมากมายขนาดนี้ ตอบได้เลยว่าไม่มีแน่นอนวันนี้ที่ผมนำเรียนประวัติของท่านนักการ

ภารโรงนี้ก็เพราะว่าอยากจะให้เรียนรู้ถึงคุณค่าความดีและความขยันในหน้าที่การงานเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ดูความยากลำบากในการเป็นนักการภารโรง และมันเป็นความภาคภูมิใจท่านผู้นี้คือคุณพ่อของผมเองทุกเหตุการณ์ที่ผมเล่าให้ฟัง ผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเสมอ..ภูมิใจมาก 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    gclub เครดิตฟรี 150

Posted by adminone in ประวัติ - ตำนาน

ความกังวลการใช้ภาษาในเด็ก

เด็กในยุคปัจจุบันโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นพวกเขสมีสิ่งที่กังวลเกิดขึ้นมากมายและสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตและทำให้การใช้ชีวิตนั้นมีความยากสำหรับเด็กๆก็คือความกังวลในเรื่องของคำศัพท์ต่างๆที่จะเป็นคำอธิบายเพื่อพูดออกมา

มีเด็กหลายๆคนนั้นประสบปัญหาในเรื่องของความวิตกกังวลในการใช้คำศัพท์นั่นคือตอนที่สมองเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

ความกังวลการใช้ภาษาในเด็ก และเมื่อเด็กนั้นเกิดความกังวล สิ่งที่ตามมาก็คือในเรื่องของการผิดแปลงไปของลักษณะนิสัยรวมถึงพฤติกรรมด้วย

ในบางครั้งสิ่เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นและเด็กสามารถที่จะรู้ตัวได้ในช่วงวัยเด็กแต่บางครั้งนั้นก็อาจจะมาร็ตัวและนึกได้ว่าในตอนเด็กนั้นมีความวิตกกังวลในเรื่องเหล่านี้ทำให้หลายๆคนนั้นมีความผิดปกติและทำให้ในเมื่อโตขึ้นอาจจะเป็นคนที่ได้ได้มีการสื่อสารมากนัก เนื่องจากการวิตกกังวลในเรื่องของการสื่อสารรวมถึงคำศัพท์ในการที่จะสื่อสารออกมานั่นเอง

หลายคนมักจะมีการพูดถึงว่าเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กนั้นพวกเขาถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนในการที่จะสื่สารสิ่งต่างๆออกมา

ทำให้ในตอนเด็กนั้นกลายเป็นเด็กที่มีความอดทนต่ำ และมีการแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปและเมื่อต้องสื่อสารก็จะมีการสื่อสารที่ไม่ตรงไปตรงมา เมื่อเมื่อพวกเขานั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การสื่อสารนั้นเริ่มเห็นชัดมากขึ้น ทำให้พวกเขาเหล่านี้ที่เคยเป็นเด็กที่มีความกังวลในการสื่อสาร มักจะสื่อสารด้วยอารมณ์ที่ตรงไปตรงมาและหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่บิดเบือน

อยากไรก็ตามเด็กๆที่มีความกังวลในด้านการสื่อสารนั้นหวังว่า สิ่งที่พวกเขานั้นเป็นอยู่จะไม่ทำให้เกิดความเลื่อมล้ำและถูกลดค่าไป  ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ระบุ 7.1% แหล่งที่เชื่อถือได้ของเด็กอายุระหว่าง 3 ถึง 17 ปีมีการวินิจฉัยความวิตกกังวล นั่นคือเด็ก 4.4 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา

ซึ่งคาดว่าเด็หลายๆล้านคนนั้นอาจจะได้รับการคลายความกัลวลด้วยการอ่านหนังสือ ซ฿งปัจจุบันมีหนังสือมากมายที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวกับคำศัพท์รวมถึงในเรื่องของการสื่อสารต่างๆมากขึ้น และครอบครัวพ่อแม่มีความใส่ใจในเด็กมากขึ้น แฃะการค้นหาในเรื่องเกี่ยวกับความวิตกกังวลเหล่านี้ถูกค้นหาอย่างมากบน Google อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ในการทำหนังสือเพื่อตอบสนองเด็กๆที่มีควมบกพร้องในความกังวลเหล่านี้นั้น ก็มีการคำนึงถึงในด้านต่างๆในการทำหนังสือขึ้นมาด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นผู้เขียนที่เขียนอธิบายสิ่งเหล่านี้นั้นมักจะเกิดความกังวลมาก่อนและสามารถที่จะแก้ไขได้ ทำให้สามารถที่จะบอกเล่าเรื่องราวในการสื่อสาร การใช้คำศพ์ทั้งนี้ยังรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์เมื่อเด็กๆนั้นเกิดความวิตกกังวลเมื่อต้องสื่อสารในช่วงวัยเด็กอีกด้วย ด้วยการทำหนังสือเหล่านี้ขึ้นมานั้นก็หวังจะเป็นสื่อที่จำทำให้สิ่งเหล่านี้นั้นลดลงและเด็กก็เกิดความกังวลในสิ่งเหล่านี้น้อยลงอย่างที่สุดด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet auto

Posted by adminone in ไม่มีหมวดหมู่