ไฟป่าอเมซอน

ไฟป่าอเมซอน

ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้นได้มีข่าวใหญ่ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญอย่าง ไฟป่าอเมซอน

ไฟป่าอเมซอน เหตุการณ์นี้ได้เป็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก และสื่อสังคมออนไลน์นั้ก็ได้พากันติดแฮชแท็ก #PrayforAmaZonas และ #PrayforAmazonia กันเป็นอย่างมากจนขึ้นที่ 1 ของทุกเทรนในโซเชียลมีเดีย ที่ทุกคนต่างออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่ป่าขนาดใหญ่อันดับนึงของโลกนี้นั้นเป็นเพราะถูกไฟเผาป่าอเมซอนจนเกิดความเสียหายใหญ่โต สถานการณ์ไฟป่านั้นมีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤต และเป็นไฟป่าที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 5 ปี

โดยเกิดการไหม้ลุกลามอย่างต่อเนื่องป็นเวลากว่าร่วมเดือน และไม่สามรถระบุได้ว่าไฟป่าขนาดใหญ่นี้จะหยุดลงเมื่อใด ในขณะที่ทางรัฐบาลบราซิลเองก็ได้ออกมาประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้มีความสำคัญกับโลกเป็นอย่างมาก ทำให้ทุกคนเกิดการวิตกกังวลว่าหากป่าถูกเผาไหม้จนหมดอาจจะเกิดหายนะใหญ่สำหรับโลกได้

นั้นก็เป็นเพราะอเมซอนเป็นแหล่งระบบนิเวศที่มีความหลากหลายเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นบ้านของเหล่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่อีกมากมายนับหลายพันหลายหมื่นสายพันธุ์ เป็นปอดที่สำคัญของโลกที่ปีๆนึงป่าแห่งนี้ได้สูบเอาสารพิษที่มนุษย์นั้นเป็นผู้สร้างเอาไว้ปีปีนึงเป็นหลายล้านตัน ฉะนั้นแล้วหากป่าอเมซอนเกิดการถูกทำลายแล้วเราอาจจะเกิดปัญหาที่แก้ไขได้ยาก

 

ได้มีการวิเคราะห์เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าอเมซฮนว่าไฟป่านั้นเกิดขึ้นมาและรุนแรงขนาดนี้ได้อย่างไร

อเมซอนนั้นมีขนาดที่กว้างใหญ่กินพื้นที่ครอบคลุมถึง 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ และกว่าครึ่งนึงของป่าอเมซอนก็อยู่ภายใต้พื้นที่เขตของประเทศบราซิล และส่วนพื้นที่ที่เหลือนั้นก็ครอบคลุมไปถึงอีก 8 ประเทศที่อยู่ใกล้เคียง โดยคิดเนื้อที่ของป่าเป็น 5.5. ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม ขนานไปกับเส้นศูนย์สูตร แบ่งแยกออกเป็นป่าตอนเหนือกับใต้ และยังมีแม่น้ำอเมซอนซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งอาศัยของพันธุ์ปลาอันดุร้ายที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ ปลาปิรันยา

และยังเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ที่น่ากลัวอย่าง อนาคอนดา โดยมีขนาดยาวเท่าที่มีการค้นพบได้คือ 13 เมตร ป่าอเมซอนนอกจากจะเป็นที่พื้นอยู่ศัยของคนแล้วยังเป็นบ้านของสัตว์อีกนับล้าน ความหลากหลายของป่าอเมซอนช่วยทำให้ระบบนิเวศของป่ามีความอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นพื้นที่ของต้นไม้อีกนับไม้ถ้วนที่อาศัยและพึ่งพาซึ่งกันและกันอยู่ 

แม้เราจะมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ซักเพียงไหนแต่ถ้าหากเรายังใช้ทรัพยากรอย่างไม่คิดเช่นนี้ อนาคตเราคงไม่มีป่าไว้ให้ได้ใช้อีก แล้วยังเป็นคนที่ทำลายบ้านของเหล่าสัตว์ต่างๆ ที่อาศัย ป่าแห่งนี้ และการที่ป่าไฟไหม้นี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนให้เราได้รับรู้ว่าป่ากำลังร้องไห้อยู่ เพราะฝีมือของเราที่เป็นผู้ทำลายระบบนิเวศที่เข้มแข็งนี้ หากเรายังอยากจะอาศัยโลกใบนี้อยู่อย่างสงบสุข เราก็ควรที่จะเลิกทำลายโลกและสัตว์ผู้ร่วมอาศัยกับเราก่อน ไม่เช่นนั้นเราอาจจะไม่มีโลกให้อาศํยอยู่ ดังเช่นสัตว์ต่างๆที่ถูกลำลายบ้านนั้นก็คือป่า

 

สนับสนุนบทความโดย แทงบอลไม่มีขั้นต่ำ