ชีวิตมีการเดินทางตลอดเวลา เพื่อพบปะ พบเจอ ญาติสนิท มิตรสหาย หรือเพื่อไปเปิดโลกพบประสบการณ์ใหม่ๆ เราอาจเดินทางเพื่อท่องเที่ยว หรือเดินทางเพื่อไปทำงาน แม้กระทั่งไปทำบุญ หรืออพยพย้ายถิ่นฐาน
การบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ในทุกช่วงชีวิตมีหลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการถ่ายภาพ ที่มนุษย์เราทำมาตั้งแต่โบราณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสลักภาพผนัง จนเป็นการถ่ายภาพขาวดำ และเป็นภาพสี หรือเป็นไฟล์ดิจิตอล
แต่ละพื้นที่ สถานที่ แต่ละท้องถิ่นมีของฝาก ของที่ระลึกไม่เหมือนกัน เพราะมนุษย์เรามีความเก่งกันคนละด้าน ทำให้เพิ่มความสำคัญของแต่ละพื้นที่ เช่น เขตเอเชียมีวัด ฝรั่งเศสมีหอไอเฟล อิตาลีมีหอเอนปิซ่า เป็นต้น
ชีวิตประจำวันเราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อร่างกายที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม แต่ละพื้นที่ก็มีอาหารเฉพาะที่สร้างชื่อเสียง หรือจุดเด่นมากมาย เช่น อาหารอินเดียเด่นเครื่องเทศ ยุโรปมีพิซซ่าพาสต้า ประเทศไทยมีส้มตำ เป็นต้น
การดำเนินชีวิตต่างๆของคนเรา มีประวัติศาสตร์ที่มา มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่แตกต่างกัน เป็นรากฐานที่ส่งผลให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวัน แต่ละคนไม่เหมือนกัน สเปนมีประเพณีแข่งกระทิง ประเทศไทยมีประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น
UFO จานบิน อารยธรรมอาร์คติก ชนเผ่ามายัน สิ่งลี้ลับอื่นๆ บนโลกมีอีกมากมายที่มนุษย์เรายังไม่สามารถค้นหาคำตอบได้
สำหรับประวัติความเป็นมาของศาลเจ้านาจาซึ่งถือว่าเป็นสถานเจ้าเก่าแก่อีกศาลเจ้าหนึ่งของประเทศมาเก๊าโดยศาลเจ้าแห่งนี้ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยปีคริสต์ศักราช 1888
โดยวัตถุประสงค์ของการสร้างศาลเจ้านาจาขึ้นมานั้นก็เพราะว่าต้องการที่จะสร้างขึ้นมาอุทิศให้แก่ยุวเทพนาจาซึ่งถ้าหากใครศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศจีนหรือแม้แต่ฮ่องกงและมาเก๊านั้นจะรู้ว่าจะมีองค์เทพเจ้านาจาที่ชาวจีนนั้นค่อนข้างให้ความเคารพนับถือซึ่งชาวจีนจะเรียกองค์เทพนาจานี้ว่านาจาไท้จือนั่นเอง
ตามความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของการกราบไหว้องค์เทพนาจานั้นเชื่อว่าองค์เทพจะสามารถปกปักคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องป้องกันโรคระบาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวมาเก๊าเชื่อว่าองค์เทพที่อยู่ในศาลเจ้านาจานั้นจะช่วยป้องกันโรคระบาดที่เป็นโรคระบาดร้ายแรงให้กับผู้คนในประเทศมาเก๊า
ซึ่งในช่วงที่สร้างขึ้นมาใหม่ๆนั้นเป็นช่วงที่ประเทศมาเก๊าเกิดโรคระบาดซึ่งก็คือโรคกามโรคนั่นเองและผู้คนก็กราบไหว้ขอพรยุวเทพนาจาให้ช่วยคุ้มครองและก็ได้รับการคุ้มครองจากองค์เทพหลังจากนั้นผู้คนจึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างศาลเจ้าขนาดในคลิปขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงนาจาไท่จื่อนั่นเอง
ความเป็นมาของศาลเจ้านาจา เนื่องจากว่าศาลเจ้านาจานั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เก่าแก่และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมีการสร้างขึ้นมาถึงแม้ว่าจะไม่ใหญ่
แต่ก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามเพราะเป็นการสร้างแบบผสมกันระหว่างวัฒนธรรมจีนและวัฒนธรรมตะวันตกที่สำคัญศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างเอาไว้ติดกับรั้วกำแพงโบราณดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งทำให้องค์กรยูเนสโกให้ความสนใจและในเมื่อปีพุทธศักราชทางองค์กรจึงได้มีการยกย่องให้เป็นมรดกของโลก
อย่างไรก็ตามศาลเจ้านาจานั้นไม่ได้มีดีเพียงแค่คุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องของโรคระบาดเพียงเท่านั้นเพราะผู้คนส่วนใหญ่ที่เดินทางไปกราบไหว้ขอพรนั้นมักจะมีการขอพรกราบไหว้เรื่องของการขอลูกโดยถ้าหากใครไม่มีลูกหรือมีลูกยากก็มักจะเดินทางมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เพราะที่นี่นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก
เกี่ยวกับการให้ลูกและถ้าหากใครมีบุตรหลานหรือลูกหลานแล้วอยากจะขอพรให้ลูกหลานสุขภาพร่างกายแข็งแรงก็สามารถพาลูกหลานหรือมาขอพรให้กับลูกหลานได้ด้วยตนเองที่ศาลเจ้านาจาแห่งนี้ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ถ้าหากใครกลัวลูกหลานของตนเองจะเกเรอยากให้ลูกหลานของตนเองเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายก็สามารถมาขอองค์เจ้าแม่นาจาให้ช่วยคุ้มครองบุตรหลานให้เป็นเด็กเรียบร้อยว่านอนสอนง่ายได้เช่นเดียวกันสำหรับใครที่จะเดินทางไปที่ศาลเจ้านาจานั้นศาลเจ้าแห่งนี้จะอยู่ใกล้กับโบสถ์เซนต์ปอลนั่นเอง
ได้รับการสนับสนุนจาก สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ
อรุณรุ่งแห่งพุทธประทีป สำหรับความเชื่อความศรัทธาของผู้คนนั้นเรามักจะเห็นได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นคนในสมัยโบราณและไม่ได้มีการร่ำเรียนเกี่ยวกับเรื่องของศาสนาก็มักจะมีการนับถือบูชาภูตผีปีศาจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสมัยโบราณนั้นมักจะนับถือบูชาภูตผีบรรพบุรุษของตนเองนั่นก็คือปู่ย่าตายายที่เสียชีวิตไปแล้วโดยคนสมัยยุคของหิริภุญชัยนครนั้นก็เป็นอีกยุคสมัยหนึ่งที่มีการบูชาผี
เนื่องจากว่าคนสมัยโบราณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของศาสนาต่างๆและคนพื้นเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นชาวเมืองรั่วซึ่งแต่เดิมนั้นก็มีการบูชาเสาสกังหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเสาอินทขีลนั่นเอง
ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของจุดเริ่มต้นของความศรัทธาทางด้านศาสนาของคนในยุคสมัยหริภุญชัยนครหรือเรียกว่าในยุคนี้ถือว่าเป็นยุคอรุณรุ่งแห่งพุทธประทีปนั่นเอง
จากประวัติความเป็นมาของประวัติศาสตร์ของยุคสมัยหริภุญชัยนั้นได้มีการบันทึกเอาไว้ว่าแต่เริ่มเดิมทีก่อนหน้าที่จะมีการสร้างเป็นเมืองหริภุญชัยนั้นผู้คนไม่ได้มีการนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้นจนต่อมาได้มีนักโพสต์เดินทางมาที่เมืองหริภุญชัย
โดยนักโทษคนดังกล่าวนั้นได้นำเอาศาสนาพราหมณ์มาเผยแพร่หลังจากนั้นก็มีการสร้างเมืองหริภุญชัยขึ้นมาจากการรวบรวมประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวหลังจากนั้นพื้นที่ดังกล่าวก็สู่เข้ายุคคาริบนชัยอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการเข้ามาของศาสนาพราหมณ์แล้วก็มีการเปลี่ยนผ่านศาสนา โดยเปลี่ยนจากการมานับถือศาสนาพราหมณ์มาเข้าสู่ช่วงการนับถือนิกายลังกาวงศ์
นอกจากนี้ยังมีนิกายรามัญวงศ์ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในยุคสมัยดังกล่าวนั้นเมืองหริภุญชัยนั้นเรียกได้ว่ามีศาสนาทุกลัทธิเข้ามาเผยแพร่เลยก็ว่าได้นอกจากนี้ศาสนาดังกล่าวนั้นยังมีการเผยแพร่ไปยังเมืองอื่นๆไม่ว่าจะเป็นในร้านช้างหรือในร้านนารวมถึง สิบสองปันนาอีกด้วย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีลัทธิหรือศาสนามากมายหลายศาสนาเข้ามาในยุคสมัยของหริภุญชัยนครแต่ศาสนาพุทธเองก็เข้ามาเจริญรุ่งเรืองในช่วงยุคสมัยดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกันซึ่งจะเห็นได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีการขุดพบพระบรมสารีริกธาตุที่บริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัย
โดยเป็นพระธาตุที่อยู่กลางเมืองจากการตรวจสอบพบว่ามีการสร้างมาในช่วงศตวรรษที่ 16-17 ในสมัยของพระยาอธิราชดังนั้นนี่คือหลักฐานชั้นยอดที่แสดงให้เห็นได้ว่าในยุคของหริภุญชัยนั้นก็มีการนับถือศาสนาพุทธและมีการสถาปนาศาสนาพุทธเป็นแห่งแรกของทางภาคเหนือนั่นเอง
ได้รับการสนับสนุนจาก ae บาคาร่า
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของหลวงพ่อปากแดงกันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่ามีชื่อเสียงของความศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการขอโชคลาภขอหวยซึ่งในแต่ละวันนั้นมักจะมีผู้คนเดินทางไปที่วัดพราหมณีเพื่อขอพรกับหลวงพ่อปากแดงดังนั้นในวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติของหลวงพ่อปากแดงกันว่ามีประวัติความเป็นมายังไงบ้าง
วัดพราหมณี จังหวัดนครนายก สำหรับตำนานของหลวงพ่อปากแดงนั้นได้รับการบอกกล่าวมาจากเจ้าอาวาสวัดพราหมณีซึ่งก็คือพระครูโสภณพามาคุณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อตี๋ง ซึ่งได้พูดถึงเกี่ยวกับตำนานเรื่องของหลวงพ่อปากแดงที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือว่าหลวงพ่อปากแดงนั้นเป็นพระพุทธรูปที่เดิมนั้นประดิษฐานอยู่ที่จังหวัดหนองคาย หลวงพ่อปากแดงนั้นมีพระพุทธรูปที่เป็นพี่น้องกันอีก 2 รูปด้วยกันซึ่งในขณะนั้นประดิษฐานอยู่ด้วยกันที่วัดเดียวกันก็คือหลวงพ่อพระสุกกับหลวงพ่อพระใส
อย่างไรก็ตามตามตำนานในการเล่าว่าก่อนที่พระพุทธรูปทั้ง 3 รูปนี้ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อปากแดงหรือแม้แต่หลวงพ่อพระสุกและหลวงพ่อพระใสนั้น
แต่เดิมไม่ได้อยู่ที่วัดในจังหวัดหนองคายแต่อยู่ที่นครเวียงจันทน์ซึ่งพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ได้รับการอัญเชิญมาให้มาที่ประเทศไทยหลังจากที่อัญเชิญมาเสร็จเรียบร้อยแล้วพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ถูกแยกย้ายไปประดิษฐ์ฐานไปอยู่ตามวัดต่างๆ
ซึ่งพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ได้แยกย้ายออกจากกันโดยหลวงพ่อปากแดงนั้นก็ถูกอัญเชิญมาไว้ที่วัดพราหมณีซึ่งในครั้งแรกนั้นเป็นการอัญเชิญเพื่อมาหยุดพักบริเวณที่ว่างเพียงเท่านั้นแต่หลังจากนั้นก็มีการอัญเชิญให้ประดิษฐานอยู่ที่วัดพราหมณีแบบถาวร
โดยหลังจากที่หลวงพ่อปากแดงมาประดิษฐานอยู่ที่วัดพราหมณีก็ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านเป็นอย่างมากทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อปากแดงนั้นโด่งดังไปทั่วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชาวบ้านมาขอโชคลาภก็มักจะสมหวังตามที่ขอจึงมักมีคนมาทำการแก้บนหลังจากนั้นก็เริ่มมาทำการขอหวยแล้วมีคนถูกหวยก็มาแก้บนยิ่งทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อปากแดงยิ่งกังวาลไกลไปทั่วจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง
ตามความเชื่อของชาวบ้านมีการเชื่อกันว่าหลวงพ่อปากแดงนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากมักจะช่วยเหลือให้ชาวบ้านที่มาขอพรประสบความสำเร็จในสิ่งที่ได้มีการร้องขอและต้องการโดยชาวบ้านมักจะมีการนำดอกไม้ธูปเทียนมาถวายหลวงพ่อปากแดงซึ่งหลวงพ่อปากแดงนั้นเป็นพระพุทธรูปที่สร้างด้วยโลหะสำริดเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ
สำหรับจุดเด่นของหลวงพ่อปากแดงนั้นจะมีพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มมีสีแดงที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนนอกจากนี้จีวรยังเป็นลายดอกพิกุลและเป็นพระพุทธรูปที่สร้างด้วยศิลปะสมัยล้านช้างทำให้หลวงพ่อปากแดงนั้นเป็นที่สะดุดตาอย่างมาก
สนับสนุนเนื้อหาโดย ีดฟิำะ
สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับประวัติของวัดพราหมณีซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งและเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้นๆของจังหวัดนครนายกเลยก็ว่าได้สำหรับวัดพราหมณีนั้นเป็นวัดที่ทุกคนแทบจะรู้จักกันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่ามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านมักจะเรียกกันติดปากว่าวัดพราหมณีคือวัดของหลวงพ่อปากแดง
อย่างไรก็ตามวัดแห่งนี้นั้นมีอายุมากกว่า 100 ปีมาแล้วซึ่งถือว่าเป็นวัดเก่าแก่โดยประวัติความเป็นมาของวัดพราหมณีนั้นว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เลยทีเดียว
สำหรับวัดพราหมณีนั้นเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแม้แต่คนที่ไม่ใช่คนในจังหวัดนครนายกก็ยังรู้จักวัดแห่งนี้เป็นอย่างดีและมักจะพากันเดินทางมากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดพราหมณีซึ่งที่วัดพราหมณีแห่งนี้นั้นมีพระประธานที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก
ประวัติวัดพราหมณี โดยประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถซึ่งมีความเก่าแก่และเป็นที่นับถือของชาวบ้านอย่างกว้างขวางเลยทีเดียวโดยพระประธานที่เราพูดถึงนั้นก็คือหลวงพ่อปากแดงนั่นเอง
สำหรับหลวงพ่อปากแดงนั้นเป็นหลวงพ่อที่ชาวบ้านให้ความนับถือเป็นพระพุทธรูปที่ถูกสร้างด้วยศิลปะสมัยล้านช้าง นอกจากนี้ช่างที่หล่อหลวงพ่อปากแดงขึ้นมายังหล่อด้วยโลหะสำริด และลักษณะขององค์พระพุทธรูปนั้นเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ
อย่างไรก็ตามว่ากันว่าหลวงพ่อปากแดงนั้นค่อนข้างที่จะเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากชาวบ้านมักจะพากันมากราบไหว้ขอพรเคารพสักการะหลวงพ่อปากแดงกันเป็นประจำเพื่อขอให้หลวงพ่อปากแดงนั้นอำนวยพรให้ประสบความสำเร็จ
ด้วยความที่มีการขอพรและประสบความสำเร็จนี่เองจึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อปากแดงนั้น ufabet เว็บหลัก มีการพูดถึงกันปากต่อปากว่าหากใครมาขอพรก็จะประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงโชคลาภเงินทองซึ่งหลวงพ่อปากแดงนั้นแต่เดิมเป็นพระพุทธรูปที่อยู่ที่นครเวียงจันทน์
แต่ได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดพราหมณีแห่งนี้และตั้งแต่ที่ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดพราหมณีก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากและเจ้าอาวาสเองก็ได้มีการอัญเชิญหลวงพ่อปากแดงมาไว้ภายในอุโบสถเพื่อให้มาเป็นพระประธานประจำวัดพราหมณีนั้นเอง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าวัดพราหมณีนั้นเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากดังนั้นปัจจุบันนอกจากจะเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านมาทำบุญไหว้พระกันแล้วจึงมักเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมักจะเลือกมาเที่ยวรวมถึงถ่ายรูปเช็คอินและซื้อของฝากติดไม้ติดมือซึ่งมีของฝากประจำจังหวัดเยอะแยะมากมายที่ถูกนำมาวางขายบริเวณโดยรอบของวัดพราหมณีนั่นเอง