เกษตรผสมผสานแบบพอเพียง

เกษตรผสมผสานแบบพอเพียง

ที่ดินเพียงหนึ่งไร่อาจจะดูไม่มากมายนัก แต่ถ้าหากได้มีการศึกษาและจัดระเบียบกระบวนการคิดแล้วนั้นและมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เกษตรผสมผสานแบบพอเพียง เราก็จะสามารถใช้พื้นที่เพียงหนึ่งไร่นั้นได้อย่างคุ้มค่า สามารถสร้างรายได้ให้แกตนเองและครอบครัวและสร้างความสุขให้กับครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

วิธีการทำเกษตรผสมผสานแบบพอเพียง บนพื้นที่หนึ่งไร่นั้นจะมีการแบ่งการใช้สอยออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนสำหนับที่ใช้ในการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และอีกส่วนคือส่วนที่ใช้สำหรับการปลูกพืชผลทางการเกษตร โดยมีการศึกษาการทำเกษตรแบบผสมผสานของคนในจังหวัด โดยการแบ่งพื้นที่ในหนึ่งไร่ออกเป็นหนึ่งงานสำหรับสร้างบ้านและบ่อกักเก็บน้ำและพื้นที่ที่เหลืออีกสามงานสำหรับใช้ในการเพาะปลูกซึ่งการปลูกพืชนั้นจะเน้นไปเป็นการปลูกพืชแบบสามระยะคือ ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว

พืชระยะสั้นนั้นจะใช้เวลาในเพาะปลูกในระยะเวลาที่สั้นโดยส่วนใหญ่พืชชนิดนี้จะเน้นการเก็บผลผลิตไว้ประกอบอาหารและทานภายในครอบครัว และหากมีจำนวนมากเกินความต้องการก็สามารถนำไปขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวได้ เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในการปลูกนั้นมีจำนวนน้อย ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเลือกพันธุ์พืชผักที่จะปลูกให้เหมาะสม และการใช้พื้นที่ในการปลุกให้คุ้มค่า เช่น ปลูกพริก ผักบุ้ง โหระพาเป็นต้น โดยรายได้ที่ได้จากส่วนนี้อาจจะเอาไว้ใช้จ่ายภายในครัวเรือน พืชระยะกลางจะเป็นไม้ผลและผลไม่ที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการปลูกอาจจะสามารถเก็บผลผลิตได้เพียงปีละ 1-2ครั้ง

หรือตามฤดูกาล เช่นมะนาว กล้วย มะม่วง เป็นต้น โดยรายได้ที่ได้จากการขายในส่วนนี้อาจจะมีการแบ่งรายได้ไปใช้ในการชำระหนี้หรือเป็นเงินออม ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่เราต้อเน้นผลผลิตที่ออกในช่วงราคาแพง เราก็จะได้ราคาผลผลิตที่สูงขึ้นนั่นเอง พืชระยะยาวโดยจะเน้นไปที่พันธุ์ไม้เศรษฐกิจที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเพาะปลูกหลายปี

จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หรือใช้ประโยชน์ได้ เช่น ศักดิ์ทอง ยางนา  ไม้เต็ง ไม้แดงหรือไม่ประดู่เป็นต้น โดยต้นไม้เหล้านี้นั้นเราจะเน้นการปลุกตามแนวเขตแดนหรือการปลูกเป็นรั้วเน้นปลูกช่วงฤดูฝน และในบริเวณพื้นที่หนึ่งไรนั้นเราก็จะสามารถปลูกได้ในจำนวนที่เยอะประมาณหนึ่งและระยะห่างระหว่างต้นนั้นก็สามารถปลูกพืชระยะกลางแซมได้ มะละกอ เป็นต้น 

รายได้ในช่วงแรกในการเริ่มต้นเกษตรผสมผสานนั้นอาจจะมีรายได้ที่ไม่มากและไม่คงที่แต่ในปีต่อๆไปเมื่อต้นไม้ที่ปลูกออกดอกออกผลมากขึ้นเราก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตและสามารถเอาไปขายและรายได้จะเพิ่มขึ้น ข้อดีของการปลุกพืชในพื้นที่ที่มีจำกัดคือเราสามารถดุแลได้อย่างทั่วถึงและไม่ต้องใช้แรงงานเยอะสามารถทำเองได้ ไม่ต้องหวังพึ่งลมฟ้าอากาศธรรมชาติเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องลุ้นว่าพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จะส่งผลดีหรือไม่  แต่ทำเกษตรพอเพียงจะลดความเสี่ยงเรื่องพืชผล และนอกจากนี้เราควรจะใช้ชีวิตบนพื้นฐานความพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายแต่พอดีไม่เกินตัวและที่สำคัญไม่สร้างหนี้ด้วย